สายศิลป์ภาษาจีนสุดปัง ! เข้าคณะดังได้แน่
การเลือกสายการเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย อาจเป็นสิ่งที่นักเรียนและผู้ปกครองหลาย ๆ คนรู้สึกหนักใจ เพราะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการปูทางไปสู่มหาวิทยาลัยในฝันและอาชีพในอนาคต
แค่ 1-2 ภาษาอาจจะไม่พอ!! เพราะในปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคเก่า ไปสู่โลกดิจิตอล ทำให้ความต้องการของตลาดแรงงานเปลี่ยนไป เด็กยุคใหม่จึงต้องเพิ่มทักษะอัปสกิล เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อให้พร้อมที่จะเติมโตมาใช้ชีวิตในโลกยุคนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และแน่นอนว่าทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 นี้คือทักษะ “ภาษา” ซึ่งสมัยก่อนเราอาจเคยได้ยินว่าคนที่ได้ภาษาที่สองนั้น จะได้เปรียบคนอื่นๆ มากกว่า
แต่ในปัจจุบันแค่สองภาษาอาจจะไม่พอแล้ว เพราะหากคุณอยากเป็นคนที่ตลาดต้องการตัว คุณอาจจะต้องพูดได้ถึงสามภาษา และนี่จึงเป็นเหตุผล ที่ผู้ปกครองในยุคนี้ ต้องปรับเปลี่ยนความคิด และพร้อมสนับสนุนให้เด็กๆ เรียนรู้ภาษาที่สองและสามไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วในฐานะผู้ปกครอง เราจะมีวิธีปั้นลูกอย่างไร ให้กลายเป็นเด็ก 3 ภาษา? มาดูกัน
เนื่องจากเด็กเล็กจะมีความยืดหยุ่นของสมอง สามารถที่จะปรับตัวต่อการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ได้ดีกว่า และสมองยิ่งเด็ก ยิ่งต้องการการป้อนข้อมูลของภาษาที่สองหรือภาษาที่สามน้อยกว่า ซึ่งเด็กเล็กๆ จะซึมซับเสียง โครงสร้างคำ การออกเสียงสูง-ต่ำ รวมถึงเรียนรู้กฎของการใช้ภาษาที่สอง หรือภาษาที่สามได้ง่ายขึ้น
หากผู้ปกครองคนไหนใช้ภาษาไหนคล่อง ให้พูดกับลูกภาษานั้นๆ 1 ภาษา สมองเด็กจะสามารถเรียนรู้ภาษาได้ เมื่อได้รับข้อมูลต่างภาษาจากผู้ปกครองต่างคน การพูด 2 หรือ 3 ภาษาในประโยคเดียวกัน หรือพูดไปแปลไป อาจทำให้เด็กเกิดความสับสนได้
One language one place เช่นใช้ภาษาหนึ่งในบ้าน และใช้ภาษาที่สอง หรือภาษาที่สามนอกบ้าน สิ่งนี้เรียกว่า one time one language กรณีที่พ่อแม่อาจจะไม่ได้มีความคล่องในภาษาที่สองหรือสามมากนัก เช่น พูดสองภาษาสลับกับสัปดาห์เว้นสัปดาห์ หรืออาจจะพูดเฉพาะ ช่วงเช้า/ช่วงมื้ออาหาร/ช่วงเวลาเล่นหรืออ่านนิทานกับลูก ซึ่งช่วงเวลาที่คุยกัน ก็ให้กลับมาคุยภาษาที่คุณพ่อคุณแม่ถนัด เป็นต้น
อย่าให้สิ้นสุดแค่ในห้องเรียน ยิ่งเด็กได้รับข้อมูลยิ่งมาก ยิ่งเรียนรู้ได้ไว อาจแนะนำให้เด็กมีโอกาสได้ใช้ภาษาที่สองและสามในชีวิตประจำวัน หรือการไปเล่นกับเด็กวัยเดียวกันที่ใช้ภาษาที่สองและสามในสนามเด็กเล่น หรือไปเข้าค่าย ในวัยเด็กเล็กไม่แนะนำให้เรียนรู้ภาษาผ่านการเรียนพิเศษ แม้ว่าเด็กยิ่งเล็ก ยิ่งได้เรียน ยิ่งเป็นเร็ว แต่เด็กเล็กเป็นวัยที่ควรได้ใช้เวลาในการเล่นกับพ่อแม่ และเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวจะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีกว่าแค่นั่งในห้องเรียน เพราะ “นอกจากพัฒนาการด้านภาษา พัฒนาการโดยรวมของลูกย่อมสำคัญกว่าเสมอ” การที่เด็กจะพัฒนาการโดยรวมดีได้ ล้วนอาศัยจากปัจจัยต่างๆ เช่น การกิน-นอน-เล่นอย่างเหมาะสมตามวัยเช่นกัน
หากผู้ปกครองอยากให้เด็กใช้ทั้งสามภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ พ่อแม่ควรให้เด็กได้รับทั้งสามภาษาพอๆ กัน เพราะหากใช้แต่ภาษาใดภาษาหนึ่ง โดยที่อีกภาษาไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถลืมภาษาเดิมได้
โดยช่วงแรกอาจจะสอนได้ภาษาแรกให้ดีก่อน แล้วค่อยสอนภาษาที่สองและสามลูก โดยเริ่มจากคำเดี่ยวๆ และเมื่อลูกมีทักษะภาษาที่สองและสามมากขึ้น ก็อาจให้ลูกได้เรียนรู้ภาษากับคนที่มีความคล่องในภาษานั้นๆ
ผู้ปกครองอาจระวังการกระตุ้นลูกมากจนเกินไป จนทำให้ลูกรู้สึกกดดัน เนื่องจากความสามารถในการเรียนรู้ทางภาษาของเด็กแต่ละคนอาจไวไม่เท่ากัน
เพราะหลักสูตรภาษาจีนและภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่ LingoAce ได้ถูกออกแบบและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านหลักสูตร และผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาสำหรับเด็ก ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรมาเพื่อให้เด็กโดยเฉพาะ หลักสูตรจึงตอบโจทย์ ความต้องการของเด็กในแต่ละวัย และเป้าหมายการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน เหมาะกับพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กๆ อย่างแท้จริง
ทุกคลาสเรียนไม่ว่าจะเป็นภาษาจีนสำหรับเด็ก หรือ ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กของ LingoAce สอนโดยครูเจ้าของภาษาซึ่งล้วนแต่มีประสบการณ์การสอนมามากกว่า 3 ปีทุกคน และด้วยวิธีการเรียนแบบ Immersive Learning ที่จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนได้ไปเรียนที่ประเทศเจ้าของภาษาจริงๆ จะช่วยให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ผ่านการซึมซับภาษาด้วยความเข้าใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หลักสูตรของ LingoAce จะสอนภาษาจีนสำหรับเด็ก และ ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ผ่านเรื่องราวในรูปแบบ “story-based learning” ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ สนใจเรียน และสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้เด็กๆ สามารถเชื่อมโยงอารมณ์กับเนื้อหาการเรียนรู้และคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น และจากการที่เรานำภาษาไปผูกกับบริบทการสนทนาต่างๆ ในเรื่องราว เด็กๆ เองก็จะสามารถจดจำคำศัพท์หรือเนื้อหาในบทเรียนได้ดีขึ้น และทำให้การเรียนเป็นเรื่องที่สนุก
การเรียนรู้แบบโต้ตอบจะช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกการใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณครูของเราจะมีเทคนิคที่จะกระตุ้นให้เด็กๆ ได้ฝึกการโต้ตอบหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการชวนคุยในสิ่งที่เด็กๆ สนใจ มีการใช้เกมสอดแทรกในบทเรียน ซึ่งทำให้เด็กๆ สามารถแสดงออกในห้องเรียนได้มากขึ้น เรียนสนุก ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
ที่ LingoAce เราไม่ได้สอนเน้นให้ท่องจำ แต่สอนให้นำไปใช้ได้จริง ด้วยหลักสูตรภาษาจีนและภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่ LingoAce ถูกออกแบบมาให้เด็กๆ เข้าใจง่าย มีตัวอย่างการนำไปใช้ให้เห็นว่านำไปใช้ได้อย่างไร เนื้อหาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งยังสอดแทรกวัฒนธรรมทั้งจีน และสากลเข้าไปในเนื้อหาอีกด้วย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหน
ที่กำลังมองหาตัวช่วยกิจกรรมดี ๆ
เพื่อเสริมทักษะภาษาจีนและภาษาอังกฤษ
พี่ Tigo ขอแนะนำ LingoAce แพลทฟอร์มเรียนภาษาจีนและภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ออกแบบหลักสูตรให้เด็กๆ ได้เรียนเหมือนได้เล่น ทำกิจกรรมสนุกผ่านการเล่นเกมและโต้ตอบกับคุณครู เจ้าของภาษาตลอดคลาส รับรองว่าสนุก ได้ลองสิ่งใหม่ๆ และได้ความรู้ตลอดคลาส ไม่มีเบื่อแน่นอน นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ที่ค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลา ก็หมดห่วงได้เลย ด้วย
LingoAce Connect
แอปพลิเคชันที่เป็นเหมือนตัวช่วยให้พ่อแม่ ให้สามารถดูน้องๆ เรียนได้แบบเรียลไทม์หรือจะดูย้อนหลังก็ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนการเรียน ผ่านแอปพลิเคชันจะส่งข้อความ หาผู้ปกครองไม่ต้องกลัวว่าน้องจะพลาดคลาสเรียน รวมไปถึงระบบส่ง Feedback มาให้คุณพ่อคุณแม่โดยจากคุณครูชาวจีน ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่แน่นอน
ลงทะเบียนเพื่อรับคลาส
ทดลองเรียนฟรี !
ทดลองเรียนฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียม
การลงทะเบียนหรือค่ามัดจำใดๆ ทั้งสิ้น
รวมทั้งสามารถเลือกเวลาเรียนได้
ตามความสะดวกของคุณ
คลาสสอนสดออนไลน์ พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับ
หลักสูตรและคุณครูที่เหมาะสมกับความต้องการและบุคลิกในการเรียนของเด็กมากที่สุด
โดยจะมีการประเมินอย่างละเอียด
และแชร์รายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดอ่อนและจุดแข็งของเด็กให้ผู้ปกครองได้ทราบ
ทดลองเรียน เพื่อพิสูจน์ความแตกต่าง
ด้วยตัวคุณเอง
บทความใกล้เคียง
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า